วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567

บันทึกรายงานการตอกเสาเข็ม

การบันทึกการตอกเสาเข็มโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังนี้

1.กรณีทั่วไป (ตอกเสาเข็มโดยไม่ต้องใช้เสาส่ง)

ขั้นตอนการดำเนินการ:

  1. เตรียมเสาเข็ม:
    • ขีดเครื่องหมายบนโคนเสาเข็มทุกระยะ 30 เซนติเมตร เริ่มจาก 3 เมตรสุดท้าย
  2. ยกเสาเข็มตั้ง:
    • บันทึกระยะที่เสาเข็มจมลงไปในดินด้วยน้ำหนักของตัวเอง
  3. วางตุ้มน้ำหนัก:
    • บันทึกระยะที่เสาเข็มจมลงไปในดินเมื่อวางตุ้มน้ำหนักบนหัวเสาเข็ม
  4. ตอกเสาเข็ม:
    • เมื่อเสาเข็มเหลือ 3 เมตรสุดท้าย เริ่มบันทึกรายละเอียดดังนี้
      • จำนวนครั้งที่ตอก
      • ระยะจมตัวของเสาเข็ม (วัดจากเครื่องหมายที่ขีดไว้)
      • ควบคุมระยะยกตุ้มน้ำหนักตามที่วิศวกรกำหนด

หมายเหตุ:

  • บันทึกข้อมูลทั้งหมดลงในตารางที่เตรียมไว้

2.กรณีพิเศษ (ตอกเสาเข็มโดยใช้เสาส่ง)

ขั้นตอนการดำเนินการ:

  1. เตรียมเสาเข็ม:
    • ขีดเครื่องหมายบนโคนเสาเข็มทุกระยะ 30 เซนติเมตร เริ่มจาก 1.5 เมตรสุดท้าย (หรือตามระยะที่ต้องใช้เสาส่ง)
  2. เตรียมตะเกียบปั้นจั่น:
    • ขีดเครื่องหมายบนตะเกียบปั้นจั่นทุกระยะ 30 เซนติเมตร เท่ากับระยะที่จะต้องส่งเสาเข็มลงในดิน
  3. ตอกเสาเข็ม:
    • บันทึกรายละเอียดการตอกเสาเข็มลงในตารางดังนี้
      • จำนวนครั้งที่ตอก
      • ระยะจมตัวของเสาเข็ม (วัดจากเครื่องหมายบนเสาเข็ม)
      • ระยะที่ส่งเสาเข็มลงไป (วัดจากเครื่องหมายบนตะเกียบปั้นจั่น)

หมายเหตุ:

  • บันทึกข้อมูลทั้งหมดลงในตารางที่เตรียมไว้

วันอังคารที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2567

การเลือกใช้เสาเข็มเจาะ

     เสาเข็มเจาะเป็นเสาเข็มอีกประเภทหนึ่งซึ่งแตกต่างจากเสาเข็มคอนกรีตอัดแรงในลักษณะของการใช้ งาน กรรมวิธีในการทำเสาเข็มเจาะค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน และจะต้องทำ ณ สถานที่ที่จะใช้งานจริงเลย โดยใช้เครื่องมือเจาะขุดดินลงไปให้ได้ขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางและความลึกของเสาเข็มตามที่กำหนดจาก นั้นจึงจะใส่เหล็กเสริมและเทคอนกรีตลงไปเพื่อหล่อเป็นเสาเข็ม เสาเข็มเจาะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆตามขนาดของเสาเข็มและกรรมวิธีที่ใช้ อันได้แก่

1. เสาเข็มเจาะขนาดเล็ก ( small diameter bored pile ) เป็นเสาเข็มเจาะที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ในช่วง 35-60 เซนติเมตร ( ส่วนใหญ่จะเป็น ขนาด เส้นผ่านศูนย์กลาง 35, 40, 50, 60 เซนติเมตร ) มีความลึกอยู่ในช่วงประมาณ 18-23 เมตร กรรมวิธีที่ใช้ในการเจาะมักจะเป็นแบบแห้ง ( dry process ) ซึ่งเป็นการขุดเจาะโดยใช้เครื่องมือขุดเจาะ ลงไปตามธรรมดา

2. เสาเข็มเจาะขนาดใหญ ( large diameter bored pile ) เป็นเสาเข็มเจาะที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 60 เซนติเมตรขึ้นไป ( ส่วนใหญ่จะมี ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 80, 100, 120, 150 เซนติเมตร ) มีความลึกอยู่ในช่วงประมาณ 25-65 เมตร กรรมวิธีที่ในการเจาะมักจะเป็นระบบเปียก ( wet process ) ซึ่งแตกต่างจากระบบแห้ง คือจะต้องเพิ่ม ขั้นตอนในการฉีดสารเคมีเหลวซึ่งเรียกว่า Bentonite slurry ลงไปในหลุมที่ทำการขุดเจาะ โดยเฉพาะ หลุมที่มีความลึกมากๆถึงชั้นทรายหรือหลุมที่มีน้ำใต้ดิน ทั้งนี้ เพื่อสร้างแรงดันในหลุมที่เจาะและยึดประ สานผิวดินในหลุมเพื่อป้องกันมิให้ผนังหลุมที่เจาะพังทลายลงมา

    การใช้เสาเข็มเจาะจะไม่ก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนอันอาจเป็นอันตรายต่ออาคารข้างเคียง เพราะไม่มี การตอกกระแทกของปั้นจั่นดังเช่นที่ใช้กับเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง อีกทั้งขนาดของเสาเข็มเจาะก็อาจทำให้มีขนาดใหญ่โดยมีขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางได้ถึง 200 เซนติเมตร เพราะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อจำกัดของขนาดของปั้นจั่นและน้ำหนักของตัวเสาเข็ม ขณะที่เสาเข็มคอนกรีตอัดแรงนั้นขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ใช้กันทั่ว ไปมีขนาดความกว้างของพื้นที่หน้าตัดเพียง 40 เซนติเมตรเท่านั้น อีกทั้งความลึกของเสาเข็มเจาะก็สามมารถเจาะได้ลึกกว่าความยาวของเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง ฉะนั้นเสาเข็มเจาะจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับอาคารสูงซึ่ง ต้องรับน้ำหนักมากและอาคารที่สร้างใกล้ชิดเพื่อป้องกันมิให้เกิดการสั่นสะเทือนซึ่งจะเป็นอันตรายต่ออาคาร ข้างเคียง ในทางปฏิบัติแล้วขั้นตอนในการทำเสาเข็มเจาะจะมีรายละเอียดที่ยุ่งยากซับซ้อนกว่าที่กล่าวไว้มาก ที่กล่าวมาข้างต้นก็เพียงต้องการให้มองเห็นภาพและขั้นตอนของการทำเสาเข็มเจาะเพียงคร่าว ๆ เท่านั้น การปลูกบ้านพักอาศัยโดยทั่วไปมักจะใช้เสาเข็มคอนกรีตอัดแรงเพราะมีขั้นตอนที่ง่ายกว่าและราคาถูกกว่า เสาเข็มเจาะ

เสาเข็มกลมแรงเหวี่ยงอัดแรง(เสาเข็มสปัน)

เสาเข็มสปัน หรือที่รู้จักกันในชื่อ เสาเข็มกลมแรงเหวี่ยงอัดแรง เป็นเสาเข็มที่ผลิตโดยใช้ เทคโนโลยีการปั่นคอนกรีต ภายในแบบหล่อที่หมุนด้วยความเร็วสูง กระบวนการนี้ช่วยให้เนื้อคอนกรีตมีความหนาแน่นสูงกว่าคอนกรีตที่หล่อแบบทั่วไป ส่งผลให้เสาเข็มสปันมีความแข็งแกร่งทนทาน รับน้ำหนักได้ดี เหมาะสำหรับงานฐานรากของอาคารที่ต้องการความมั่นคงสูง

ลักษณะของเสาเข็มสปัน:

  • ลักษณะเป็นเสากลม ตรงกลางกลวง
  • มีโครงเหล็กอัดแรงฝังอยู่ภายในเนื้อคอนกรีตโดยรอบ
  • ผิวคอนกรีตเรียบเนียน แข็งแรง
  • มีให้เลือกหลายขนาด โดยทั่วไปมีเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 20 - 100 เซนติเมตร
  • ความหนาของเนื้อคอนกรีตอยู่ที่ 6 - 14 เซนติเมตร
  • ความยาวมาตรฐานอยู่ที่ 6 - 18 เมตร ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต
  • สามารถต่อเสาให้ยาวขึ้นได้โดยการเชื่อมต่อกัน

ข้อดีของเสาเข็มสปัน:

  • แข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักได้ดี
  • ตอกได้ลึก เหมาะกับงานฐานรากที่ต้องการความมั่นคงสูง
  • ผิวคอนกรีตเรียบเนียน ลดแรงเสียดทาน
  • ตอกได้หลายวิธี ทั้งแบบตอกด้วยปั้นจั่นทั่วไป และแบบเจาะกด
  • รูกลวงตรงกลางเสาช่วยลดการสั่นสะเทือนและแรงดันของดิน
  • เหมาะสำหรับงานฐานรากอาคารสูง อาคารที่ต้องการความมั่นคงแข็งแรง
  • ป้องกันปัญหาเรื่องลมแรง แผ่นดินไหว

ข้อเสียของเสาเข็มสปัน:

  • มีราคาค่อนข้างสูงกว่าเสาเข็มประเภทอื่น
  • ต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการตอก
  • ต้องอาศัยช่างผู้ชำนาญการ

วันจันทร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2567

เสาเข็มคอนกรีตอัดแรงสำหรับทุกโครงสร้าง

    การเลือกใช้เสาเข็มคอนกรีตอัดแรงเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญในการสร้างอาคารพาณิชย์และบ้านพักอาศัย เสาเข็มเหล่านี้ทำจากปูนซีเมนต์คุณภาพสูงที่มีการแข็งตัวเร็ว โดยมีโครงเหล็กภายในทำจากลวดเหล็กอัดแรงความสูง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความทนทานให้กับโครงสร้าง กรรมวิธีการตอกเสาเข็มเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ปั้นจั่นในการกระแทกเสาเข็มลงสู่ดิน ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
การเลือกชนิดของเสาเข็มคอนกรีตอัดแรงที่เหมาะสมสำหรับโครงสร้างของคุณมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากแต่ละชนิดมีความแข็งแรงและความสามารถในการรับน้ำหนักที่แตกต่างกัน ชนิดที่พบบ่อยได้แก่:
1. เสาเข็มรูปตัวไอ: เป็นชนิดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการรับน้ำหนักของตัวบ้าน มีการออกแบบมาเพื่อรับน้ำหนักที่มาก โดยขนาดและความยาวของเสาเข็มจะถูกกำหนดโดยวิศวกรผู้ออกแบบ 2. เสาเข็มสี่เหลี่ยมตัน: เหมาะสำหรับโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงและความเสถียร 3. เสาเข็มหกเหลี่ยมหรือแปดเหลี่ยมชนิดกลวง: มักใช้สำหรับงานโครงสร้างที่เล็กกว่าหรือการรับน้ำหนักน้อยกว่า เช่น งานฐานรากของรั้ว 4. เสาเข็มรูปตัวที: อีกหนึ่งตัวเลือกที่เหมาะกับงานโครงสร้างขนาดเล็กหรือเมื่อมีความต้องการในการรับน้ำหนักที่ไม่มาก
เคล็ดลับและเทคนิคพิเศษในการเลือกใช้เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง
การประเมินคุณภาพของดิน: ก่อนเริ่มงานก่อสร้าง ควรมีการสำรวจและประเมินคุณภาพของดินในพื้นที่ก่อสร้าง เพื่อเลือกชนิดของเสาเข็มที่เหมาะสมที่สุด การพิจารณาความยาวของเสาเข็ม: ความยาวของเสาเข็มควรเลือกให้เหมาะสมกับน้ำหนักที่ต้องการรับและสภาพของดิน เพื่อป้องกันการทรุดตัวของโครงสร้าง การใช้เทคโนโลยีในการตอกเสาเข็ม: การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการตอกเสาเข็มสามารถช่วยลดเวลาในการก่อสร้างและเพิ่มความแม่นยำ การเตรียมพื้นที่ก่อสร้าง: ก่อนการตอกเสาเข็ม ควรมีการเตรียมพื้นที่ให้พร้อม เช่น การกำจัดอุปสรรคและการดำเนินการเบื้องต้นเพื่อให้การตอกเสาเข็มเป็นไปอย่างราบรื่น
การเลือกใช้เสาเข็มคอนกรีตอัดแรงอย่างถูกต้องไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความมั่นคงและความทนทานให้กับโครงสร้างของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการก่อสร้างได้อีกด้วย การเข้าใจถึงลักษณะและการใช้งานของเสาเข็มแต่ละชนิดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการใช้เสาเข็มอัดแรงรองรับโครงสร้างของคุณ